ห้องที่ ๑ : พระศรีสุนทรโวหาร


          ปางราชดาบศไท้ชนกนาม
เนากุฎิพนารามป่ากว้าง
แต่ฝังบุตรีงามงำเงื่อน ไว้เฮย
กลับนิยมศีลสร้างพรตพร้อมพรหมจรรย์
          จิตรมุ่งหมายได้ลุโลกีย์ ฌานเฮย
เพียรพยายามทวีค่ำเช้า
นับฉนำเนิ่นนานลีลาศล่วง หลายนา
ยังบ่ยลย่างเข้าเฃตรห้องฌานชม
          หน่ายจิตรคิดทดท้อทางเรียน
ใจป่วนหวนวนเวียนวากเว้
ทำเพียรบสมเพียรเพียรเปล่า แล้วพ่อ
จักบวชชักโอ้เอ้อยู่ด้วยอันใด
          จักคืนกลับเข้าสู่บูรี
สมบัติสมบูรณมีมากพร้อม
บำรุงประชาชีฉันเช่น ก่อนแฮ
จำกลับเดินทางอ้อมออกสร้างทางทาน
          หวนคิดถึงลูกน้อยในดิน
ตรัสเรียกนายโสมลินลาศเต้า
ยังร่มนิโครธผินภักตร์สั่ง โสมเอย
ขุดลูกกูจักเข้าเฃตรแคว้นนครคืน
          นายโสมรับสั่งแล้วขมีขมัน
จับจอบจวกดินฟันงัดไง้
บประสบสิ่งสำคัญผอบบุตร ท่านนา
ทิ้งจอบนั่งร้องไห้เหตุแจ้งจอมธรรม์
          องค์พระชนกได้สดับกิจ
ตกตลึงลาญจิตรอัดอั้น
อกหวั่นพ่างชีวิตรจักวอด วายแฮ
เกิดสติกลับกลั้นโศกแล้วสั่งโสม
          ลูกกูควรคู่เจ้าจักรพรรดิ
บุญหนักศักดิ์ใหญ่ชัดเชื่อได้
จักถึงชีพพิบัติเหนหลาก นักนา
จำจักเกณฑ์ไถให้ฟอกพื้นดินหา
          โสมเอยเองรีบเข้าบูรินทร์
บอกแต่ขุนเสนินทร์อย่าช้า
ให้จัดทศโยธินทุกหมวด มาเฮย
พลคชรถมิ่งม้าครบถ้วนจตุรงค์
          ให้เตรียมไถแอกทั้งโคกา ษรเฮย
เรวเร่งรีบออกมาที่นี้
ไถค้นพระธิดาดวงจิตร กูนา
ไปอย่าเนิ่นนานลี้หลบช้ามาเรว
          นายโสมรับสั่งแล้วลาจร
ถั่น ๆ บแรมรอนพักช้า
ถับถึงพระนครประเวศสู่ วังเฮย
พบพวกขุนนางเจ้าวุ่นแส้ทักถาม
          โสมเรียนแดท่านผู้อธิบดี
ตามสั่งพระมุนีถ่องถ้วน
ตระบัดบาดหมายมีเกณฑ์ทุก กรมแฮ
จัดพหลพลล้วนฮึกห้าวหาญณรงค์
          เกณฑ์กรมเกษตรทั้งกรมจร
ไถแอกโคกาษรเสร็จพร้อม
ยกพวกพลากรจากนัค เรศฤๅ
จึ่งสั่งนายโสมด้อมดุ่มหน้านำพล
          ลุเฃตรอาวาศเวิ้งวันสณฑ์
ให้กระบวนรี้พลพักยั้ง
ภายนอกบริมณฑลเขตรวัด นั้นนา
พาพวกขุนนางทั้งหมดเฝ้าพระมุนี
          พระเผยพจนาดถ์แจ้งความหลัง
เล่าเหล่าเสนาฟังจวบแคล้ว
เสด็จนำณที่ฝังผอบอัค เรศแฮ
ชี้เฃตรสำคัญแล้วสั่งให้ไถรดม
          นายกน้อมเกล้ารับโองการ
ด่วน ๆ มาสั่งงานเสร็จพร้อม
นังคัลกิจบัญหารเทียมแอก ไถเฮย
ไถประดังดาล้อมเฃตรด้าวแดนไทร
          ไถเดี่ยวไถคู่พร้อมรดมไถ
ต่างมุ่งต่างหมายใจเสาะค้น
แปรดะถัดทูนไวเวียนรอบ
ไถทั่วจงหวัดต้นนิโครธครึ้มสาฃา
          หลายรอยหลายรอบรื้อพสุธา
หลายคาบหลายคราหาห่อนพ้อง
แสงแดดแผดกายาอยุดพัก เหนื่อยเฮย
นบบาทนักสิทธิพร้องพจน์แจ้งแถลงการณ์
          พระสดับดาลโศกเศร้าชลไนย นองเอย
สุดที่สังเกตใจจักแจ้ง
ชรอยหมู่เทพยไทยงำเงื่อน ไว้นา
จำจะบวงสรวงแสร้งสัตย์อ้างอธิษฐาน
          ตริเสร็จทรงเสี่ยงด้วยบารมี
แม้นมาดบุตรีกูเกียรดิล้ำ
ควรเปนอรรคเทพีจักรพรรดิ ราชนา
เผดจทุกข์ผดุงค้ำโลกยให้ศุขเกษม
          ฃอจงอุสุภเชื้ออาชา ไนยเฮย
ไถจรดจรุงพาพบแก้ว
อิกอำนาจเทวารักษช่วย นำเนอ
เสร็จเสี่ยงสัตยาแล้วจึ่งจ้องจรดไถ
          โคนำจำเภาะพ้องพานปรสบ
ดอกประทุมห่อผอบกลัดกลุ้ม
บานกลีบกลิ่นตลบเลวงรื่น รศนา
พระจึ่งเผยผอบอุ้มบุตรแล้วรับขวัญ
          มนตรีทุกส่ำซ้องสรเสริญ
โฉมพระธิดาเจริญจิตรฃ้อง
พร้อมเบญจลักษณเพลินเนตรโลกย์ เฉลิมแฮ
อึงเอิกอวยพรพร้องลนั่นน้อมถวายกร
          พระเสด็จนำลูกน้อยนวนจันทร์
คืนสู่อาศรมพลันกล่าวอ้าง
พ่อไร้ดะไนยสันตติราช วงษเอย
จึ่งละสมบัติสร้างพรตสู้พยายาม
          กุคลดลแนะได้ดวงจิตร
เปนบุตรสุดสมคิดพ่อแล้ว
พ่อจกเศกนามสฤษดิพรสวสดิ แม่นา
จงชื่อสีดาแก้วเกิดเกื้อบุญธรรม
          นางประนดบทเรศไท้ทูลสนอง
พระเดชพระคุณปองปกเกล้า
ลูกรักจักขอรองบัวบาท พระนา
คงชีพอาสัญเข้าฃ่ายฃ้องมฤตยู
          มนตรีทั้งสี่ซ้ำสรเสริญ
ได้ช่องทูัลอัญเชิญราชท้าว
สรวมเสด็จราชดำเนินคืนนัค เรศนา
ครองพิภพผ่านด้าวดุจดั้งเดิมครอง
          ทรงรับอายาจแล้วพลันลา พรตแฮ
ซั้นสั่งเทียบโยธายาตรเด้า
ทรงรถร่วมธิดาดวงจิตร ท่านนา
ถั่น ๆ ถึงถิ่นเฃ้าเฃตรท้ายธานิน

จบห้องที่ ๑


  เนื้อความกล่าวถึงนับแต่พระชนกฤษีได้นำธิดาใส่ผอบฝังดินไว้ ได้บำเพ็ญพรตเป็นเวลานานไม่บรรลุ ก็เกิดความเบื่อหน่าย คิดจะกลับไปครองบ้านเมืองตามเดิม หวนคิดถึงธิดาที่อยู่ในผอบจึงสั่งให้ลูกศิษย์ไปขุดแต่ไม่พบ จึงให้ลูกศิษย์เข้าเมืองนำไพร่พลมาช่วยกันไถดินค้นหา แต่ก็ไม่พบอีก พระชนกฤษีจึงทำพิธีบวงสรวง แล้วไถดินจึงได้พบผอบ เมื่อเปิดปรากฏว่าธิดาจำเริญวัย มีรูปโฉมงดงาม พระชนกฤษีให้ชื่อธิดาว่า สีดา ต่อจากนั้นพระชนกฤษีก็ลาพรต พานางสีดากลับเมืองมิถิลา

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ไถทั่วจังหวัดต้น”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “สนั่นน้อมถวายกร”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “กุศลดลแนะได้”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “พ่อจักเศกนามสฤษดิ พรสวัสดิ แม่นา”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ได้ช่องทูลอัญเชิญ”